
ระเบียบคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม
ว่าด้วยการจัดตั้งและบริหารกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม
พ.ศ. 2552
------------------------------------------
เพื่อให้การจัดตั้งและบริหาร กองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม หมู่ที่ 1 ตำบลขุนทะเล อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี สอดคล้องกับหลักการ เหตุผล และสาระของระเบียบคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ว่าด้วยการจัดตั้งและบริหารกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. 2551
อาศัยความตามระเบียบ ข้อ 21 ( 2 ) แห่งระเบียบคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ว่าด้วยการจัดตั้งและบริหารกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. 2551 คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม จึงออกระเบียบกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม พ.ศ. 2552 ไว้ดังนี้
หมวด 1
ข้อความทั่วไป
-------------------------------
ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ ระเบียบคณะกรรมการกองทุน หมู่บ้าน บ้านนิคม ว่าด้วยการจัดตั้งและบริหารกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม พ.ศ. 2552 “
ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับ ตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ 3 ให้ยกเลิก ระเบียบข้อบังคับกองทุนหมู่บ้านนิคม ว่าด้วยระเบียบกองทุนหมู่บ้านนิคม พ.ศ. 2544
ข้อ 4 ให้ประธานกรรมการกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม รักษาการตามระเบียบนี้
ข้อ 5 ที่ตั้งกองทุนหมู่บ้าน กองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม ตั้งอยู่ที่ 78/1 หมู่ที่ 1 ตำบลขุนทะเล อำเภอเมือง จังหวัด
สุราษฎร์ธานี
ข้อ 6 ในระเบียบนี้
“ กองทุน ” หมายถึง กองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม
“ สมาชิก ” หมายถึงสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม
“ กรรมการ ” หมายถึงกรรมการกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม
“ คณะกรรมการ ” หมายถึงคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม
“ ที่ประชุมสมาชิก ” หมายถึงที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี หรือที่ประชุมใหญ่วิสามัญ
ข้อ 7 ชื่อกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม ชื่อย่อ กทบ. บ้านนิคม
ข้อ 8 เครื่องหมายกองทุน ใช้สัญลักษณ์ กทบ. ( กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ )
หมวด 2
วัตถุประสงค์
-----------------------
ข้อ 9 วัตถุประสงค์กองทุน
( 1 ) เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนหรือบรรเทาความเดือดร้อนเร่งด่วนให้สมาชิก
( 2 ) เพื่อเป็นแหล่งสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย
( 3 ) เพื่อสงเสริมและพัฒนาชุมชนให้สามารถบริหารจัดการเงินทุนของตนเอง
( 4 ) เพื่อสร้างเสริมขบวนการเรียนรู้โดยมีส่วนร่วม ตามแบบประชาธิปไตย
( 5 ) ส่งเสริมให้ชุมชนพึ่งพาตนเองตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง
( 6 ) เสริมสร้างความเข็มแข็งทางเศรษฐกิจ และสังคมของประชาชนในหมู่บ้าน
( 7 ) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานรากในประเทศ
( 8 ) เพื่อส่งเสริมการจัดสวัสดิการช่วยเหลือเอื้ออาทร คนแก่ เด็ก คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส
( 9 ) เพื่อรับฝากเงินจากสมาชิกและจัดหาทุนจากแหล่งเงินทุนอื่น
( 10 ) เพื่อให้กู้ยืมเงินแก่กองทุนหมู่บ้านอื่น นำไปสร้างนำไปสร้างความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจ
หมวด 3
สมาชิกกองทุน
----------------------
ข้อ 10 คุณสมบัติของสมาชิก
( 1 ) อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน ตามทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
( 2 ) เป็นผู้บรรลุนิติภาวะ อายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์ หรือบรรลุนิติภาวะโดยการสมรส ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
( 3 ) มีความพร้อมที่จะปฏิบัติตามระเบียบกองทุน
( 4 ) เห็นชอบตามหลักการ เงื่อนไข และมติของคณะกรรมการ
( 5 ) มีวินัยอันดีงาม ความประพฤติเรียบร้อย
( 6 ) มีเงินฝากออมทรัพย์และถือหุ้นเป็นสมาชิกสิบหุ้น
( 7 ) คณะกรรมการกองทุนมีมติเห็นชอบให้รับเป็นสมาชิก
ข้อ 11 การสมัครเข้าเป็นสมาชิก
( 1 ) ยื่นคำขอสมัครเข้าเป็นสมาชิกได้ที่กรรมการกองทุน ทุกวันที่ 18 ของเดือน พร้อมสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ( นำฉบับจริงมาแสดงด้วย )
( 2 ) เมื่อคณะกรรมการมีมติเห็นชอบให้เป็นสมาชิกแล้ว จะต้องรวมกลุ่ม 5 – 10 คน โดยมี หัวหน้ากลุ่ม เพื่อบริหารจัดการกลุ่ม ตามเงื่อนไขของคณะกรรมการ
( 3 ) คณะกรรมการเป็นผู้พิจารณาว่าจะรับบุคคลใดเข้าเป็นสมาชิกโดยชอบธรรม
ข้อ 12 เมื่อคณะกรรมการพิจารณารับเข้าเป็นสมาชิก บุคคลนั้นจะต้องชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้า ค่าหุ้นเป็นสมาชิก และต้องฝากเงินออมทรัพย์ทุกเดือน สำหรับเงินค่าธรรมเนียมจะไม่คืนทุกกรณี
ข้อ 13 สิทธิของสมาชิก
( 1 ) ขอกู้ยืมเงินกองทุน ตามเงื่อนไข หลักการที่คณะกรรมการกำหนด
( 2 ) เข้าร่วมประชุมกองทุน เพื่อเสนอความคิดเห็น
( 3 ) มีสิทธิได้รับเลือกเป็นกรรมการกองทุน
( 4 ) สิทธิอื่นๆ ตามที่กรรมการกำหนด
ข้อ 14 หน้าที่ของสมาชิก
( 1 ) ปฏิบัติตามระเบียบ มติ ประกาศ คำสั่งของคณะกรรมการกองทุน
( 2 ) ส่งเสริม สนับสนุนกิจกรรมของกองทุน เพื่อให้เป็นองค์กรที่เข้มแข็ง
( 3 ) ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการกองทุน
ข้อ 15 การพ้นจากการเป็นสมาชิกกองทุน
( 1 ) ตาย
( 2 ) ลาออกและได้รับการอนุมัติให้ลาออกจากคณะกรรมการ
( 3 ) ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติให้ออก ด้วยคะแนนสองในสามของจำนวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่
( 4 ) ที่ประชุมสมาชิกมีมติให้ออกด้วยคะแนนเกินกว่าสองในสามของสมาชิกทั้งหมด
( 5 ) จงใจฝ่าฝืนระเบียบกองทุนหรือแสดงตนเป็นปรปักต่อกองทุน
( 6 ) จงใจปิดบังความจริงอันควรแจ้งให้ทราบในใบสมัครสมาชิก
( 7 ) ขาดคุณสมบัติ ตามข้อ 10
ข้อ 16 ผู้ที่ขาดจากการเป็นสมาชิกภาพ อาจยื่นคำขอสมัครเป็นสมาชิกใหม่ได้เมื่อครบหนึ่งปีแล้ว โดยกองทุนจะเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้าเพิ่มเป็นสองเท่า
ข้อ 17 สมาชิกผู้ไม่มีหนี้สิน หรือไม่เป็นผู้ค้ำประกันอาจขอลาออกจากการเป็นสมาชิก และให้ขาดจากเป็นสมาชิกในวันที่คณะกรรมการอนุมัติ
ข้อ 18 การคิดค่าธรรมเนียมแรกเข้า คณะกรรมการคิดค่าธรรมเนียมแรกเข้ารายละยี่สิบบาท
ข้อ 19 หุ้น ๆ หนึ่งมีมูลละค่าหุ้นละสิบบาท สมาชิกต้องถือหุ้นสิบหุ้น มูลค่าถือหุ้น ถือเป็นค่าสมัครสมาชิก
ข้อ 20 เงินฝากออมทรัพย์ สมาชิกทุกคนต้องฝากเงินออมทรัพย์ทุกเดือน ในวงเงินไม่ต่ำกว่าที่กำหนดไว้ในใบสมัคร
หมวด 4
คณะกรรมการกองทุน
---------------------------------------
ข้อ 21 คุณสมบัติของคณะกรรมการ
( 1 ) เป็นผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านและอาศัยอยู่ในหมู่บ้านติดต่อกันเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่าสองปีก่อนวันที่ได้รับคัดเลือก เป็นกรรมการ
( 2 ) เป็นผู้บรรลุนิติภาวะโดยมีอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์ หรือบรรลุนิติภาวะโดยการสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
( 3 ) เป็นผู้ไม่มีความประพฤติบกพร่องในศีลธรรมอันดี มีความรับผิดชอบ เสียสละ มีส่วนร่วมในกิจกรรมชุมชน ไม่ติดการพนัน ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งเสพติดและไม่มีประวัติเสียทางด้านการเงิน ตลอดจนยึดมั่นในการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
( 4 ) ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตที่ศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถหรือบุคลล้มละลาย
( 5 ) ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ
( 6 ) ไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อทรัพย์สิน เว้นแต่ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ หรือบุกรุก
( 7 ) ไม่เคยถูกให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากราชการ องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ เพราะกระทำความผิดวินัยร้ายแรงฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ทางราชการ องค์กร หรือหน่วยงานที่สังกัด
( 8 ) ไม่เป็นผู้เคยพ้นจากตำแหน่งคณะกรรมการกองทุน ตามข้อ 15 ( 3 ) ( 4 )
ข้อ 22 คณะกรรมการกองทุน มีจำนวนไม่น้อยกว่า เก้าคนแต่ไม่เกิน สิบห้าคน ซึ่งมาจากสมาชิกโดยการคัดเลือกกันเองจากบุคคลที่มีความสามารถ การคัดเลือกกรรมการควรคำนึงถึงจำนวนกรรมการชาย และหญิงในสัดส่วนใกล้เคียงกัน
ข้อ 23 กรรมการกองทุน มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสองปี กรรมการกองทุนที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระ อาจได้รับการคัดเลือกอีกได้ แต่จะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินสองวาระไม่ได้ เว้นแต่ได้รับมติจากที่ประชุมสมาชิก โดยมีคะแนนเสียงสามในสี่รับรองให้เป็นกรรมการต่อ และมีความประสงค์จะปฏิบัติงานต่อไปให้มีสิทธิเป็นกรรมการต่อไปตามวาระ
ข้อ 24 นอกจากการพ้นตำแหน่งตามวาระแล้ว กรรมการกองทุนหมู่บ้าน พ้นจากตำแหน่งเมื่อ
( 1 ) ตาย
( 2 ) ลาออก
( 3 ) คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน มีมติให้ออกด้วยคะแนนเสียงเกินกว่าสองในสามของจำนวนกรรมการกองทุนหมู่บ้าน ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่
( 4 ) ที่ประชุมสมาชิกมีมติให้ออกคะแนนเสียงเกินกว่าสองในสาม ของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่ทั้งหมด
( 5 ) ลักษณะต้องห้ามตามข้อ 21 ในกรณีที่กรรมการกองทุนหมู่บ้าน พ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน อาจแต่งตั้งบุคคลจากสมาชิกดำรงตำแหน่งกรรมการกองทุนหมู่บ้านแทนก็ได้และให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ที่ตนแทน
ข้อ 25 ให้คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านเลือกกรรมการด้วยกันเป็นประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ เหรัญญิก แลเลขานุการ
ข้อ 26 คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านอาจแต่งตั้งกรรมการที่ปรึกษาได้ตามความเหมาะสม
ข้อ 27 คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน มีอำนาจหน้าที่ดังนี้
( 1 ) บริหารจัดการกองทุนหมู่บ้าน รวมทั้งตรวจสอบ กำกับ ดูแล และจัดสรรดอกผล รายได้ หรือผลประโยชน์ ที่เกิดจากเงินหรือทรัพย์สินของกองทุนหมู่บ้าน
( 2 ) ออกประกาศ ระเบียบ หรือข้อบังคับ เกี่ยวกับการบริหารกองทุนหมู่บ้าน
( 3 ) จัดตั้งสำนักงานกองทุนหมู่บ้าน
( 4 ) รับสมัครและทำทะเบียนสมาชิก
( 5 ) จัดหาทุนจากแหล่งเงินทุน
( 6 ) พิจารณาเงินกู้ยืมให้แก่สมาชิก หรือกองทุนหมู่บ้านอื่น ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด
( 7 ) ทำนิติกรรม สัญญา หรือดำเนินการเกี่ยวกับภาระผูกพันของกองทุนหมู่บ้าน
( 8 ) จัดทำบัญชีของกองทุนหมู่บ้าน ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด
( 9 ) สำรวจและจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับการประกอบอาชีพอุตสาหกรรมครัวเรือนและวิสาหกิจชุมชน ในเขตพื้นที่ หมู่บ้าน ตลอด จากข้อมูลและการดำเนินงานเกี่ยวกับกองทุนอื่นๆที่มีอยู่แล้วในหมู่บ้าน
( 10 ) พิจารณาดำเนินการเพื่อ สวัสดิ์ภาพ สวัสดิการ หรือประโยชน์ส่วนรวมอื่นใดของสมาชิกและหมู่บ้าน
( 11 ) ดำเนินการอื่นใดเพื่อให้สอดรับและเกื้อกูลกับกองทุนอื่นๆที่มีอยู่แล้วในหมู่บ้าน
( 12 ) ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานกองทุนหมู่บ้าน
การดำเนินการใดๆตาม ( 10 ) ให้ใช้จ่ายจากเงิน รายได้ของกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งมิใช่เงินที่ได้รับจัดสรรจากกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ
ข้อ 28 ประธานกรรมการกองทุน มีอำนาจหน้าที่ดังนี้
( 1 ) เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการ
( 2 ) เรียกประชุมคณะกรรมการกองทุน
( 3 ) แต่งตั้งอนุกรรมการกองทุนเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติงานตามที่คณะกรรมการกองทุนมอบหมาย
( 4 ) ปฏิบัติงานอื่นๆตามมติที่คณะกรรมการกำหนด
ข้อ 29 ให้รองประธานกรรมการกองทุนทำหน้าที่ประธาน เมื่อประธานไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
ข้อ 30 เหรัญญิกกองทุน มีหน้าที่รวบรวมเก็บจัดเก็บ ดูแล รักษาเงินทุนและรายได้ของกองทุน รวมทั้งจัดทำบัญชี
พร้อมทั้งควบคุมการใช้จ่ายเงินของกองทุน ให้เป็นไปอย่างรอบคอบและเกิดประโยชน์สูงสุด
ข้อ 31 เลขานุการกองทุน มีหน้าที่ติดต่อประสานงานโดยทั่วไป นัดประชุมคณะกรรมการกองทุน จดและบันทึกรายงานการประชุม
รายงานผลการดำเนินงานกองทุน
ข้อ 32 ประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่ผลิตเอกสารสิ่งพิมพ์ แจ้งข่าวสารแก่สมาชิก และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ข้อ 33 ปฎิคม มีหน้าที่ต้อนรับผู้มาเยี่ยมกองทุน บริการทั่วไปเมื่อมีการประชุมสมาชิกกองทุน
และมีหน้าที่อื่นตามที่คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านมอบหมาย
ข้อ 34 ฝ่ายติดตามโครงการ มีหน้าที่ติดตามตรวจสอบโครงการที่สมาชิกเสนอมา ว่ามีความเป็นไปได้เพียงใด
และติดตามผลเมื่อกู้เงินไปแล้วได้นำไปปฏิบัติตามโครงการที่เสนอหรือไม่
ข้อ 35 ฝ่ายติดตามเงินกู้ มีหน้าที่ติดตามผู้ที่ไม่ส่งชำระคืนตามกำหนดและหาแนวทางแก้ไขเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อแก้ไขต่อไป
ข้อ 36 คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน ต้องมีการประชุมอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้งและต้องมีกรรมการเข้าร่วมประชุมอย่างน้อยกึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดจึงเป็นองค์ประชุม
หมวด 5
ที่มาของเงินทุน
-----------------------------
ข้อ 37 เงินทุนละทรัพย์สินของกองทุนหมู่บ้าน ประกอบด้วย
( 1 ) เงินที่คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติจัดสรรให้
( 2 ) เงินอุดหนุนจากรัฐบาล
( 3 ) เงินที่สมาชิกนำมาลงหุ้น หรือฝากไว้กับกองทุนหมู่บ้านตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด
( 4 ) เงินที่กู้จากสถาบันการเงิน
( 5 ) เงินหรือทรัพย์สินอื่นที่กองทุนหมู่บ้าน ได้รับบริจาคโดยปราศจากเงื่อนไข หรือข้อผูกพันใดๆ
( 6 ) ดอกผล รายได้หรือผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากเงินหรือทรัพย์สินของกองทุนหมู่บ้าน
หมวด 6
การกู้ยืมเงินและการชำระเงินคืน
------------------------------------------------
ข้อ 38 การกูยืมเงินกองทุนหมู่บ้าน
( 1 ) การกู้ยืมเงินมี สองประเภท คือการกู้สามัญและการกู้ฉุกเฉิน
( 2 ) สมาชิกกองทุนหมู่บ้านที่ประสงค์จะขอกู้เงินต้องจัดทำคำขอกู้เงินโดย ระบุวัตถุประสงค์ในการกู้ยืมอย่างชัดเจน โดยให้ยื่นคำกู้ดังกล่าวที่กรรมการในวันสิ้นเดือนทุกเดือนสำหรับกู้ฉุกเฉินยื่นได้ทุกวัน
( 3 ) การกู้สามัญ สมาชิกรายหนึ่งกู้ได้ไม่เกินสองหมื่นบาท ในกรณีที่คณะกรรมการมีความเห็นควรอนุมัติเงินกู้รายใดเกินกว่าสองหมื่นบาท ให้คณะกรรมการเรียกประชุมสมาชิกพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดต่อไป แต่ทั้งนี้การอนุมัติเงินกู้รายหนึ่งต้องไม่เกินจำนวนห้าหมื่นบาท
( 4 ) การกู้ฉุกเฉิน สมาชิกรายหนึ่งกู้ได้ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท เพื่อบรรเทาเหตุฉุกเฉินและความจำเป็นเร่งด่วน
ให้คณะกรรมการแต่งตั้งผู้แทนกรรมการอย่างน้อยสองคนเป็นผู้แทนคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน ในการทำสัญญากู้ยืมเงินกับผู้ขอกู้ที่ได้รับการอนุมัติเงินกู้
( 5 ) การทำสัญญา เงินกู้ทุกประเภทต้องมีการทำสัญญาไว้กับคณะกรรมการกองทุนตามแบบและเงื่อนไขที่กองทุนกำหนด ( 6 ) หลักประกันเงินกู้
1.บัญชีเงินฝากออมทรัพย์
2.สมาชิกกองทุนหมู่บ้านจำนวนสองคนเป็นผู้ค้ำประกัน
( 7 ) อัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ร้อย สิบสองต่อปี
ข้อ 39 การชำระเงินคืน การชำระคืนเงินกู้ ให้สมาชิกผู้กู้ส่งคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย ภายในหนึ่งปี โดยจะส่งชำระ เป็นรายงวดหรือรายเดือน
ข้อ 40 ค่าปรับ ในกรณีที่ผู้กู้ผิดสัญญาเงินกู้ ให้ผู้กู้เสียเบี้ยปรับในอัตราร้อยละศูนย์จุดห้า ต่อเงินต้นต่อวัน คณะกรรมการอาจพิจารณา ยกเลิกหรือปรับลดเบี้ยปรับให้แก่ผู้กู้รายหนึ่งรายใดก็ได้ เมื่อมีเหตุผลอันสมควรและด้วยความเห็นชอบจากที่ประชุมสมาชิกด้วยเสียงเกินกึ่งหนึ่ง
หมวด 7
การทำบัญชีและตรวจสอบ
-----------------------------------------------
ข้อ 41 ให้คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านจัดทำบัญชี จัดทำรายรับ - รายจ่าย อย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้งและแจ้งให้สมาชิกทราบ คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านต้องจัดให้มีการตรวจสอบภายในเกี่ยวกับการบริหารจัดการเงิน การบัญชี และพัสดุโดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของสมาชิกเป็นหลัก ให้คณะกรรมการแต่งตั้งผู้ตรวจสอบ เพื่อตรวจสอบและประเมินผลการบริหารจัดการกองทุนหมู่บ้าน ให้คณะกรรมการอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของผู้ตรวจสอบ ให้ผู้ตรวจสอบ ส่งผลประกอบการและงบการเงินให้สำนักงาน และการแสดงความเห็นภายในหกสิบวัน นับแต่วันสิ้นปีบัญชี
ข้อ 42 ให้คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน จัดทำงบการเงินพร้อมรายละเอียด ส่งให้ผู้ตรวจสอบบัญชีที่คณะกรรมการกำหนดภายในระยะเวลา สามสิบวัน นับแต่วันสิ้นปีทางบัญชี ของทุกปีให้คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน สรรหาผู้ตรวจสอบบัญชีกองทุน เสนอต่อที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี เพื่อขอความเห็นชอบในการทำหน้าที่ตรวจสอบและประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินของกองทุน พร้อมจัดพิมพ์เผยแพร่ต่อสมาชิกและสาธารณะชน
หมวด 8
การประชุมกองทุนหมู่บ้าน
---------------------------------------
ข้อ 43 การประชุมคณะกองทุนหมู่บ้าน จะต้องมีกรรมการมาประชุมเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการกองทุนหมู่บ้านทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม ถ้าประธานกรรมการกองทุนหมู่บ้านไม่มาประชุม หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานทำหน้าที่ในที่ประชุม ถ้าประธานและรองประธานไม่มาประชุม หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้กรรมการกองทุนที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุมการวินิจฉัยชี้ขาด ของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งเสียงในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงขึ้นอีกหนึ่งเสียงเป็นเสียงชี้ขาด กรรมการกองทุนหมู่บ้านผู้ใดมีส่วนได้ส่วนเสียเป็นส่วนตัวในเรื่องใด ห้ามมิให้เข้าร่วมประชุมในเรื่องนั้น
ข้อ 44 การประชุมสมาชิก ให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีสมาชิก อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้งภายในกำหนด
ระยะเวลาสามสิบวันนับแต่วันสิ้นปีทางบัญชี โดยมีวาระการประชุม
( 1 ) ประธานกล่าวเปิดประชุม
( 2 ) เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
( 3 ) รับรองรายงานการประชุมครั้งที่ผ่านมา
( 4 ) เรื่องสืบเนื่องจากการประชุมครั้งก่อน
( 5 ) เหรัญญิกรายงานฐานะทางการเงิน
( 6 ) เรื่องเพื่อพิจารณา
( 7 ) เรื่องอื่นๆ ( ถ้ามี )
( 8 ) สรุปผลและปิดการประชุม
ข้อ 45 นอกจากการประชุมใหญ่สามัญประจำปีแล้ว คณะกรรมการอาจเรียกประชุมวิสามัญเมื่อใดก็ได้เมื่อมีเหตุที่ต้องขอมติหรือขอความเห็น ชอบจากที่ประชุมสมาชิกตามระเบียบจากกรณีตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรมการกองทุนเรียกประชุมใหญ่สามัญภายในระยะเวลาสิบห้าวัน นับแต่วันที่ ได้รับการร้องขอเป็นหนังสือจากสมาชิกซึ่งเข้าชื่อกันมีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมด
ข้อ 46 ในการประชุมสมาชิก ต้องมีสมาชิก มาร่วมประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุมการประชุมคราวใดมีสมาชิกมาประชุมไม่ครบองค์ประชุม ให้นัดประชุมอีกครั้งหนึ่งภายในสิบห้าวันนับแต่วันประชุมครั้งแรก ในการประชุมครั้งหลัง ถ้ามิใช่ประชุม ใหญ่สามัญประจำปี เมื่อสมาชิกมาประชุมไม่น้อยกว่าหนึ่งในสาม ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดให้ถือเป็น องค์ประชุม
ข้อ 47 สมาชิกคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งเสียงในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงขึ้นอีกหนึ่งเสียงเป็นเสียงชี้ขาด การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก
หมวด 9
การจัดสรรกำไรสุทธิปลายปี
--------------------------
ข้อ 48 การจัดสรรกำไรสุทธิปลายปี เมื่อสิ้นปีทางบัญชีของกองทุนหมู่บ้าน และได้ปิดบัญชีตามมาตรฐานการปิดบัญชีที่รับรองโดยทั่วไปแล้ว ปรากฏว่ากองทุนมีกำไรสุทธิ ให้คณะกรรมการกองทุนนำกำไรสุทธิมาจัดสรรได้ดังนี้
( 1 ) เป็นเงินประกันความเสี่ยงในอัตราร้อยละห้า
( 2 ) เป็นเงินสมทบกองทุน ในอัตราร้อยละยี่สิบ
( 3 ) เป็นเฉลี่ยคืนแก่ผู้กู้ในอัตราร้อยละห้า
( 4 ) เป็นเงินทุนสวัสดิการแก่สมาชิกในอัตราร้อยละสิบ
( 5 ) เป็นเงินทุนสาธารณประโยชน์ของหมู่บ้านในอัตราร้อยละสิบ
( 6 ) เป็นเงินทุน พัฒนากองทุนร้อยละสิบ
( 7 ) เป็นเงินตอบแทนคณะกรรมการในอัตราร้อยละยี่สิบ
( 8 ) เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงากองทุนในอัตราร้อยละยี่สิบ
ประกาศ ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
( นายสบาย ไสยรินทร์ )
ประธานคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม
ระเบียบคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม
ว่าด้วยการจัดตั้งและบริหารกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม ( ฉบับที่ 2 )
พ.ศ. 2553
.................................................................................................
โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 3/2552 เมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2552 และอาศัยระเบียบคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม ว่าด้วยการจัดตั้งและบริหารกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม พ.ศ. 2552 หมวด 4 ข้อ 27 ( 2 ) คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม จึงออกระเบียบไว้ดังนี้
ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า ระเบียบคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม ว่าด้วยการจัดตั้งและการบริหารกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม ( ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2553
ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ 3 ให้ยกเลิกความในหมวด 6 ข้อ 39 แห่งระเบียบคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม ว่าด้วยการจัดตั้งและบริหารกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม พ.ศ. 2552 และให้ใช้ข้อความนี้แทน
“ การชำระเงินคืน การชำระเงินคืนเงินกู้ให้สมาชิกผู้กู้ ส่งคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย ภายในสองปี โดยจะส่งเป็นรายงวดหรือรายเดือน ”
ประกาศ ณ วันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2553
(นายสบาย ไสยรินทร์ )
ประธานคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม
ระเบียบคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม
ว่าด้วยการจัดตั้งและการบริหารกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม( ฉบับที่ 3 )
พ.ศ. 2555
.....................................................................................
ด้วยเหตุที่คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ มีมติ ในการประชุมครั้งที่ 1 / 2555 เมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2555 และอาศัยระเบียบคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม ว่าด้วยการจัดตั้งและการบริหารกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม พ.ศ. 2552 หมวด 4 ข้อ 27 (2) คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม จึงได้ออกระเบียบไว้ดังนี้
ข้อ 1. ระเบียบนี้เรียกว่า ระเบียบคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม ว่าด้วยการจัดตั้งและการบริหาร กองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม( ฉบับที่ 3 ) พ.ศ.2555
ข้อ 2. ระเบียบนี้ใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่ประกาศเป็นต้นไป
ข้อ 3. ให้ยกเลิกความในหมวด 6 ข้อ 38 (3) (4) แห่งระเบียบคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม ว่าด้วยการจัดตั้งและการบริหารกองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม พ.ศ.2552 และให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน “ การกู้สามัญ สมาชิกรายหนึ่งกู้ได้ไม่เกินสามหมื่นบาท ในกรณีที่คณะกรรมมีความเห็นควรอนุมัติรายใดเกินกว่าสามหมื่นบาท ให้คณะกรรมการเรียกประชุมสมาชิกพิจารณาวินิจฉัย แต่ทั้งนี้การอนุมัติเงินกู้ รายหนึ่งต้องไม่เกินจำนวนเจ็ดหมื่นห้าพันบาท ”
“ การกู้ฉุกเฉิน สมาชิกรายหนึ่งกู้ได้ไม่เกินหนึ่งหมื่นห้าพันบาท เพื่อบรรเทาเหตุฉุกเฉิน และความจำเป็นเร่งด่วน ”
ประกาศ ณ วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2555
( นายสบาย ไสยรินทร์ )
ประธานคณะกรรมการ กองทุนหมู่บ้าน บ้านนิคม